google.com, pub-3034129604152953, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Skip to main content

ประเภทการซื้อขายที่นิยมใช้ในการเทรด Forex

4 ประเภทการเทรดที่นักเทรดใช้เพื่อทำกำไรจากการซื้อขาย Forex


ปัจจุบันนี้มีวิธีการมากมายในการซื้อขาย Forex หรือ เงินตราระหว่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการใช้ประโยชน์จากการใช้ค่าเลเวอร์เรจ (leverage) ก็สามารถทำให้เทรดเดอร์มีความได้เปรียบในการซื้อขายอยู่ก่อนแล้ว เพราะไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนก็สามารถที่ซื้อขายได้ โปรกเกอร์บางรายให้ฝากขั้นต่ำได้ที่ $1 แค่นี้ก็เทรดได้แล้ว 

ซึ่งเหรียญย่อมมี 2 ด้าน เมื่อเทรดเดอร์สามารถสร้างเงินได้จำนวนมากจากเงินทุนเพียงน้อยนิด ก็ย่อมมีขาดทุนได้เช่นกัน ไม่ว่าจะขาดทุนมากหรือน้อย สิ่งสำคัญที่เทรดเดอร์จะต้องคำนึงถึงก็คือการจัดการบริหารเงินทุนในพอร์ตให้ไม่ขาดทุนจนล้างพอร์ตนั่นเอง 

สิ่งกล่าวมาจากข้างต้น จะต้องใช้เวลาและประสบการณ์ในการเรียนรู้ เพราะส่วนใหญ่ นักเทรดมือใหม่ทุกรายจะต้องพบกับคำว่า "ล้างพอร์ต" อยู่เสมอ จนกว่าจะเชียวชาญช่ำชองในวิชาความรู้เท่านั้น ถึงจะสามารถปกป้องเงินทุนให้คงอยู่ได้ 


ประเภทหรือชนิดการเทรดที่นิยมใช้กันทั่วโลกมีดังต่อไปนี้

วิธีการซื้อขายแบบ Day Trading

การซื้อขายรายวัน หรือ Day Trading นี้เป็นการซื้อขายระยะสั้นจบในแต่ละวัน ซึ่งนักเทรดจะตัดสินใจเข้าซื้อขายตามตัวชี้วัดทางเทคนิค (indicators) พร้อมกับผลกระทบของข่าวด่วนที่จะออกภายในวันนั้นๆ ซึ่งจะต้องใช้ทักษะในการเทรดที่มากพอกับประสบการณ์ที่สั่งสมมาเท่านั้น 

สำหรับมือใหม่ที่หัดเทรด Forex การเปิดบัญชีทดลองหรือเดโม เป็นวิธีการที่รัดกุมและรอบคอบมากๆ ซึ่งระยะเวลาในการฝึกฝน ควรจะผึกให้ได้ผลตามที่ตั้งใจ 3 เดือนขึ้นอย่างน้อย เพราะระยะเวลานี้คุณจะทราบดีว่า เทคนิคหรือระบบการเทรดที่ใช้ มีประสิทธิภาพหรือไม่ 

ถ้ามันได้ผลดีตามที่คุณตั้งเป้าหมายไว้ เช่น กำไร 10% ต่อเดือน คุณก็สามารถเปิดบัญชีเทรดจริงได้แล้ว แต่ควรจะเริ่มที่เงินทุนน้อยๆ อาจจะเริ่มที่การเปิดบัญชีเซ้นต์ (Cent) เพราะ $10 ที่คุณฝาก จะมีค่า 1,000 USDc ในทันที และจะทำให้คุณสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างไม่ต้องกังวลในเรื่องของเงินทุนมากนัก


วิธีการซื้อขายโดยหวังผลกำไรแบบเก็บเล็กผสมน้อย Scalping


วิธีการซื้อขาย Forex ที่หวังผลกำไรเล็กน้อยจากการซื้อขายที่มีขนาดใหญ่มาก กล่าวคือ ใช้ประโยชน์จากค่าเลเวอร์เรจสูงสุด ใช้ lot สูงเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ได้กำไรในระยะที่สั้นที่สุด อาจจะแค่ 100 -200 จุด 

วิธีการนี้เหมาะสำหรับคนชอบความเสี่ยงแบบการพนัน ใช้เงินทุนน้อย อาจจะแค่ $50 แต่ใช้เลเวอร์เรจสูง 1:1000 หรือ 1:2000 ใส่ Lot มากเท่าที่จะมากได้ หากได้กำไร ก็ได้มาก แต่ถ้าขาดทุนก็คือ ล้างพอร์ต ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เทรดเดอร์ตั้งใจวางเดิมพันอยู่แล้ว 

เทรดเดอร์ที่ชอบใช้เทคนิคนี้ จะต้องมีการตัดสินใจที่ดี และยอมรับความเสี่ยงได้ดี มีประสบการณ์ในการดูสัญญานต่างๆได้อย่างแม่นยำ ซึ่งอาจจะเป็นช่วงสั้นๆ ที่คิดว่าทำกำไร ก็จะทำการเข้าซื้อ และเก็บกำไรสั้นๆ ใช้ TF ที่ M5 หรือ M15 เก็บสั้นๆไม่วางออเดอร์นานเกินกว่า 1 ชม.


วิธีการซื้อขายแบบ Big Picture Forex Trading


เป็นการซื้อขายที่มองภาพโดยรวมของตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ TF ใหญ่ เช่น W1 หรือ เป็นเดือน MN เมื่อเข้าซื้อขายก็จะปิดกราฟไม่ต้องเข้ามาเฝ้ามอง หรือ ไม่ต้องคอยติดตามข่าว อาจจะเข้ามาเช็ค อาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อดูเทรนหรือแนวโน้มต่อไป ซึ่งการเทรดแบบนี้จะเป็นกลยุทธ์ของนักลงทุนรายใหญ่ เช่น ธนาคาร หรือ กลุ่มทุนอื่นๆ ที่มีเงินลงทุนจำนวนมากๆ การใช้กลยุทธ์ในการเข้าซื้อขายก็จะแตกต่างกันไป


วิธีการซื้อขาย Forex แบบอัตโนมัติ


การซื้อขายแบบอัตโนมัตินั้นมีหลากหลายมากๆ เช่น การติดตามสัญญานการซื้อขาย Copytrad, หรือที่นิยมกันมากก็คือ "expert advisor" EA เป็นโปรแกรมที่ใช้รันเพื่อซื้อขาย Forex แบบอัตโนมัติ ซึ่งเทรดเดอร์ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิค อ่านกราฟ หรือวิเคราะห์ใด 

EA เหล่านี้จะทำการซื้อขายให้เองตามโปรแกรมที่เขียนไว้โดยอัตโนมัติ แต่...นักเทรดบางคนที่ช่ำชองและมีประสบการณ์ในการเทรดมากๆ ก็สามารถที่สั่งเขียนโปรแกรมการเทรดนี้ได้ เพื่อให้การเทรดของพวกเขาสะดวกสบายและประหยัดเวลาได้มากขึ้นเช่นกัน และส่วนใหญ่แล้ว ตลาด Forex จะมีการใช้ระบบนี้กันเยอะมากที่สุด 


คำแนะนำ

ไม่ว่าคุณจะใช้ประโยชน์จากการซื้อขายประเภทใดๆ ควรจะรักษาอารมณ์และเหตุผล, บริหารความเสี่ยง และซื่อสัตย์กับตัวเองเมื่อคุณมีปัญหา แม้แต่นักเทรดมืออาชีพบางครั้งก็ตกอยู่ในภาวะสิ้นหวังเมื่อความสูญเสียได้เกิดขึ้น มันเป็นความเจ็บปวดเมื่อเทรดเดอร์จะต้องเจอ แต่นี่คือความจริงที่ทุกคนจะต้องเผชิญ และมีผลโดยตรงต่อการเข้าซื้อขาย Forex ของนักเทรดนั้นๆในคราวต่อไป ผลที่หนักที่สุดคือ การล้มเลิกที่จะเทรด Forex อีกต่อไป 

Comments

Popular posts from this blog

Deposit and Withdrawal Options: Convenient and Efficient Access to Your Funds.

 Deposit and Withdrawal Options: Convenient and Efficient Access to Your Funds. When it comes to forex trading, choosing the right broker is essential. One important factor to consider when selecting a broker is the deposit and withdrawal options that they offer. It is important to choose a broker that offers convenient and efficient access to your funds, as this can have a significant impact on your trading experience. In this chapter, we will explore the various deposit and withdrawal options available and how to choose the best options for your needs. Deposit Options. Forex brokers offer a range of options for depositing funds into your trading account . Some of the most common options include. Credit/debit cards: Many brokers accept deposits by credit or debit card, which can be a convenient option for funding your account quickly. Bank wire transfer: Some brokers allow you to transfer funds from your bank account to your trading account using a wire transfer. This can be a good op

Spreads and Fees: Finding the Most Competitive Options.

What are Spreads and Fees? In the forex market , the spread is the difference between the bid and ask prices for a currency pair. When you place a trade, you will typically be required to pay the spread as a cost of the trade. For example, if the bid price for EUR/USD is 1.2050 and the ask price is 1.2055, the spread would be 5 pips (0.0005). In addition to spreads, brokers may also charge other fees such as commissions or financing charges. These fees can vary widely from one broker to another, so it is important to compare the costs of different brokers in order to find the most competitive options. How to Compare Spreads and Fees. There are a few key things to consider when comparing the spreads and fees of different brokers. First, consider the type of account that you will be trading with. Some brokers offer different spreads and fees for different account types, such as standard accounts, premium accounts, or VIP accounts. Next, consider the currency pairs that you will be tradin

แนวรับแนวต้าน (support and resistance) มีกี่ประเภท? และมีอะไรบ้าง?

ที่มาของคำว่า แนวรับ-แนวต้าน (support and resistance) ที่มีของมันก็ไม่ยาก หากเราเปิดกราฟดูภาพรวมแล้วล่ะก็ เราก็จะเป็นว่ากราฟจะเคลื่อนไหวไปในทิศทาง ขึ้น (Up) หรือ ลง (Down) หรือ ออกด้าน (Sideway) ดังนั้นเมื่อกราฟเด้งขึ้น หรือเด้งลง นักลงทุนหรือเทรดเดอร์ก็จะเรียกมันว่า แนวรับ - แนวต้าน (support and resistance) ซึ่งทางด้านการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แนวรับ- แนวต้าน (support and resistance) เหล่านี้ถือว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากๆในการนำมาวิเคราะห์ ช่วยให้นักลงทุนได้เข้าใจถึงกรอบราคาของตลาด หรือการวางแผนเข้า-ออกออเดอร์ การวางกำไรและขาดทุน นอกจากนี้ยังทำให้เราสามารถทำนายหรือมองภาพการเคลื่อนไหวในอนาคตได้อีกด้วย ประเภทของแนวรับ - แนวต้านที่สำคัญ (Types of Support and Resistance) 1. แบบดั้งเดิมคือ แบบ swing highs and lows เป็นแนวรับ - แนวต้าน แบบดั้งเดิมโดยดูที่ swing highs and lows ซึ่งสามารถมองหาได้จาก Time Frame ยาวๆ เช่น Week หรือ Monthly ด้วยการซูมกราฟให้มองเห็นภาพกว้างๆ จะทำให้เรามองเห็นภาพกรอบราคาด้านบนและด้านล่างได้อย่างง่ายดาย จากนั้นจึงทำการลากเส้น ใช้เส้นจาก TF Week เป็