หลักการวาง Stop loss สำหรับการเทรด Forex ควรวางอย่างไร?

Stop Loss สำหรับการเทรด Forex มีความสำคัญหรือไม่?

บทความนี้อยู่ๆก็เกิดขึ้น เพราะว่า เกิดความรู้สึกไม่แน่ใจว่า เราควรจะวาง Stop Loss แบบไหน? และการที่เราวางแผนแบบนี้มันถูกต้องหรือไม่ เช่น เราเทรดใน TF ที่ D1 ซึ่งกราฟจะวิ่งเป็น 1000 จุด แล้วถ้าเราไม่อยากเล่นแค่จบวันล่ะ เราอยากจะเล่นแบบยาวๆ ไม่มีการตั้งกำไร แต่มีการจัดการเงินทุนไว้ เราคิดเผื่อเวลากราฟขึ้นมาพักตัว วาง SL ไว้ที่ 1500 จุด จากที่เราเปิดออเดอร์ไว้ แล้วปล่อยยาว เพราะเรามั่นใจว่า มันจะเป็นเทรนขึ้น/ลง ตามที่เราวิเคราะห์ แล้วถ้ากราฟตีขึ้นมาถึง SL ก็แสดงว่า การวิเคราะห์ของเราผิด ก็ต้องยอมตลาดไป หรือว่า เราจะวางไว้แค่ 1,000 จุด พอ ถ้ากราฟมันลากเกิน 1000 จุด ก็ปล่อย แต่ถ้าวันข้างหน้า มันกลับลงมาเป็นเทรนที่เราวิเคราะห์ไว้ ก็เท่ากับเราเสียโอกาศนั้นไปหรือไม่ ถ้าจะเข้ามาอีกรอบ คำถามนี้ สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ มักจะต้องคิดหรือวิตกกันพอสมควร ดังนั้นเรามาหาข้อมูลกันดีกว่า

เหตุใด Stop Loss จึงมีความสำคัญ เมื่อเทรด Forex

ไม่ใช่แค่ตลาด Forex เท่านั้นที่ใช้ SL ตลาดทุกตลาด ธุรกิจทุกธุรกิจ จะมีเงินจำนวนหนึ่งที่ต้องกันไว้สำหรับการขาดทุนเสมอ สำหรับตลาด Forex เป็นตลาดที่ผันผวนมาก ตอนเช้าตลาดอาจจะลง ตอนเย็นตลาดอาจจะขึ้น ซึ่งเป็นการทำนายไม่ได้ ดังนั้นการป้องกันความเสี่ยงที่สูญเสียเงินมากเกินไป เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเสมอ

และนี่คือ สูตรการวาง Stop Loss สำหรับการเทรด Forex

Stop-Loss: Setting Static Stops แบบหลักตายตัว

คือ การตั้ง SL แบบยึดหลักตายตัว เป็นหลักการเหมือน อัตรา R:R ที่ 1:1 คือ เมื่อเปิดออเดอร์แล้วจะตั้ง SL ไว้ที่ราคาเท่าไหร่ และจะไม่ย้ายหรือลบมันออกไปเด็ดขาด เช่น ตั้ง SL ไว้ที่ 100 จุดเสมอเมื่อออกออเดอร์

หรือ ในกรณีของ การเทรดแบบ swing-trader ที่มีระบบการเทรดแบบเซสชั่น คือ เข้าออเดอร์ตอนตลาดเอเชียเปิด เพราะว่า ตลาดยุโรปหรืออเมริกา ผันผวนจนเกินไปทำให้คาดเดาได้ยาก และคิดว่าถ้าผิดทางก็จะทำให้การเทรดของเขาเสียหายน้อยลง

ดังนั้นเขาจะตั้ง Stop Loss ของเขาไว้ที่ 50 pips เสมอเมื่อเปิดออเดอร์ และจะตั้งอัตราการทำกำไร จะถูกตั้งไว้อย่างต่ำ 50 pips เช่นกัน หรือ อาจจะเป็นไปตาม R:R 1:2 คือ เปิดกำไรไว้ที่ 100 pips

Stop-Loss: Trailing Stops

คือ การปรับ Stop loss ไปตามความยืดหยุ่นของเทคนิค เพื่อมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเงินในแต่ละครั้ง และเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดในการซื้อขาย เช่น

เราเปิดออเดอร์ Buy คู่เงิน EURUSD ที่ 1.3200 โดยมีจุด Stop loss ที่ 1.3150 ( 50 pips) และตั้งกำไรไว้ที่ 1.3300 (100 pips) หากการซื้อขายขยับขึ้นไปที่ 1.3250 เราอาจพิจารณาปรับ SL ของเรามาที่ 1.3200 คือ ป้องกันเงินทุนได้แล้ว หากว่า กราฟมันลงมาจนถึง SL ที่เราวางไว้

กลยุทธ์ในการใช้ Stop-Loss

กลยุทธ์เป็นสิ่งที่จำเป็นในการยกระดับการซื้อขายของคุณไปอีกระดับ คุณจำเป็นต้องค้นหากลยุทธ์ในการหยุดขาดทุนที่ดีที่สุดที่เหมาะกับคุณ นี่คือตัวอย่างของกลยุทธ์ Stop Loss ที่คุณสามารถใช้:

กลยุทธ์ Stop-Loss: Inside Bar และ Pin Bar

สำหรับกลยุทธ์พินบาร์คุณจะต้องหยุดการขาดทุนของคุณไว้ด้านหลังหางของพินบาร์ ไม่จำเป็นว่าจะเป็นบาร์ bearish หรือ bullish pin bar แล้วเมื่อราคาตีขึ้นหรือลงมาโดน pin bar ก็จงรู้ไว้ว่า ระบบการเทรดหรือ พินบาร์ ที่เราเลือกเข้าออเดอร์ ยังไม่ใช่ หรือ ตรงๆคือ ผิดทาง นั่นเอง ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่น่าเสียใจ

กลยุทธ์การวาง Stop-loss ที่แนวรับแนวต้าน (Support and resistance)

การวาง Stop-loss ไว้ที่แนวรับแนวต้านเป็นวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมของเทรดเดอร์ เพราะแนวรับแนวต้านมักจะเป็นจุดที่มีการกลับตัวของราคา หรือถ้ามีการทะลุราคาขึ้นไปหรือ  breaks through ได้ แสดงว่ากราฟหรือราคามีการไปต่อ ไม่ใช่จุดกลับตัวนั่นเอง การวาง Stop-loss ก็จะวางไว้เหนือแนวรับแนวต้านสักเล็กน้อย เช่น คุณเปิดออเดอร์ buy ไว้ และมีราคาที่ 200 ถูกแตะซ้ำแล้วซ้ำเล่า คุณควรจะตัดสินใจวาง stop loss ไว้ที่ราคา 195 เพื่อหยุดขาดทุนเมื่อผิดทาง

กลยุทธ์การวาง Stop-loss ด้วย Average true range

เมื่อคุณเพิ่มตัวอินดิเคเตอร์ ATR ลงในกราฟ ตัวอินดิเคเตอร์จะแสดงความผันผวนเฉลี่ยของตลาดในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ดังนั้นหาก ATR ปัจจุบันของตลาดที่คุณต้องการซื้อขายคือ 20 มันจะขยับ 20 จุดโดยเฉลี่ยในแต่ละวันในช่วง 14 วันที่ผ่านมา

คุณจะต้องใช้เปอร์เซ็นต์ของ ATR ของตลาดที่คุณเลือกเพื่อกำหนดว่าคุณวางจุดหยุดขาดทุนไว้ไกลแค่ไหน เปอร์เซ็นต์ที่คุณใช้จะขึ้นอยู่กับตลาดที่คุณกำลังซื้อขาย และระยะเวลาที่คุณวางแผนที่จะเปิดสถานะไว้ ATR เป็นส่วนที่มีประโยชน์ของกลยุทธ์การหยุดการขาดทุนเนื่องจากเป็นแบบไดนามิก – คุณสามารถปรับตำแหน่งหยุดของคุณให้ตรงกับสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน

เทรดเดอร์ทุกคนมีความแตกต่างกัน และการใช้กลยุทธ์การหยุดการขาดทุนที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นหากคุณต้องการลองใช้กลยุทธ์การหยุดการขาดทุนต่าง ๆ โดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินทุนใดๆ ให้เปิดบัญชีทดลองเพื่อเริ่มทดสอบว่าอะไรได้ผลและไม่ได้ผล